วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข้อมูลพื้นฐาน กศน.ตำบล

                                           ข้อมูลทั่วไปของกศน.ตำบลปอน


ประวัติความเป็นมา กศน.ตำบลปอน
         ศูนย์การเรียนชุมชนเฉลิมพระเกียรติประจำตำบลปอน  ประกาศจัดตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ปฏิบัติราชการแทนในการประกาศจัดตั้งศูนย์การเรียนชุมชนในเขตพื้นที่จังหวัดน่าน  โดยมีสถานที่จัดตั้ง ณ สถานีอนามัย(อาคารหลังเก่า)  บ้านใหม่  หมู่ที่ ๕  ตำบลปอน  อำเภอทุ่งช้าง  จังหวัดน่าน  ตั้งแต่วันที่ ๑  ตุลาคม ๒๕๔๕  บนเนื้อที่ประมาณ ๑ งาน  ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จากทางสาธารณสุขชุมชนประจำตำบลปอน  ผู้นำหมู่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านใหม่  หมู่ที่ ๕  อนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนการสอน  กิจกรรมของการศึกษานอกโรงเรียน     โดยมีอาณาเขตที่ติดต่อดังนี้  ทิศเหนือ  ติดกับ บ้านเรือนของราษฎร์   ทิศใต้ติดกับ  สาธารณสุขชุมชนตำบลปอน  และสภาวัฒนธรรมตำบลปอน  ทิศตะวันออกติดกับ ถนนสายน่าน ทุ่งช้าง ทิศตะวันตกติดกับ พื้นที่การเกษตรของประชาชนบ้านใหม่ และบ้านปอน


วิสัยทัศน์     “จัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต  ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
                  สืบสานวัฒนธรรมประเพณี  ส่งเสริมชุมชนมีประชาธิปไตย  มุ่งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน”

ชื่อสถานศึกษา    กศน.ตำบล ปอน

ต้นสังกัด           ศูนย์การศึกนอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทุ่งช้าง

สถานที่ติดต่อ     บ้านใหม่    หมู่ ที่ ๕   ตำบลปอน   อำเภอทุ่งช้าง   จังหวัดน่าน   ๕๕๑๓๐
                      โทรศัพท์ :  ๐๘๖-๑๘๐๘๔๗๐
                      e-mail : oratai_nfe@hotmail.com

สถานที่ตั้งศูนย์การเรียนชุมชน
       กศน.ตำบลปอน  ตั้งอยู่  ณ สถานีอนามัย(อาคารหลังเก่า) บ้านใหม่  หมู่ที่ ๕      ตำบลปอน  อำเภอทุ่งช้าง  จังหวัดน่าน

ข้อมูลทั่วไปของตำบลปอน
๑.สภาพทางกายภาพของชุมชนตำบลปอน
ประวัติความเป็นมา
          ตำบลปอน ได้ก่อตั้งขึ้นเมือราวประมาณปีพุทธศักราช ๒๓๗๐ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยในเริ่มต้นได้มีราษฎรจากบ้านหัวเวียงใต้ อำเภอเมืองน่าน นานว่าท้าวเพชรได้ขึ้นมาล่าสัตว์ในเขตพื้นที่บ้านหมู่  ๖ ปัจจุบัน เพราะในเขตพื้นที่ ดังกล่าวเป็นป่าทึบมีสัตว์ป่าชุกชนที่ลงมากินดินโป่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นหนองน้ำอยู่กลางหมู่บ้านพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าทึบไม่มีผู้คนมาถึง ท้าวเพชรได้พบรอยเท้าคนจึงตามรอยเท้าดังกล่าวไป จึงไปพบคน ๔ คน เป็นคนป่า เป็นชาย ๒ คน เป็นหญิง ๒ คน ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งไม่มีภาษาพูด พบว่าวัดเม็งซึ่งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้านปอนในปัจจุบัน ท้าวเพชรจึงนำคนป่า ๔ คน กลับมาอยู่ที่ตำบลปอน มาตั้งหลักแหล่งเป็นคนแรก ท้าวเพชรได้มาตั้งรกรากครั้งแรกนั้นอยู่ที่บ้านอาน ตั้งอยู่ที่ลำห้วยอานซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของบ้านปอนปัจจุบัน อยู่ในเขตพื้นที่บ้านป่าเปือย ปัจจุบัน ต่อมาท้าวเพชรได้ย้ายจากบ้านห้วยอานมาตั้งอยู่บ้านปอน ปัจจุบัน เป็นต้นกำเนิดตำบลปอนในปัจจุบัน ต่อมาได้มีผู้คนอพยพมาจากพื้นที่อยู่อื่นมาอยู่รวมกันที่บ้านปอนมากขึ้น เช่นมาจากเชียงลม เมืองเงิน แขวงไชยบุรี ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวปัจจุบัน และอพยพมาจากบ้านงอบ เป็นต้น คนป่าที่รับใช้ท้าวเพชรที่พระเจ้าน่านให้มารับใช้นั้น ปัจจุบันมีเชื้อสายอยู่ที่บ้านสบหอย (บ้านไร่ไทรงามปัจจุบัน สาเหตุที่เรียกว่า ตำบลปอน ก็เพราะว่า ขณะที่ท้าวเพชรเข้ามาล่าสัตว์ในป่าที่ลงกินดินโป่งบริเวณหนองน้ำดังกล่าว ซึ่งเรียกว่าหนองออน ท้าวเพขรได้พบแท่งเงินอยู่ริมหนองน้ำแห่งนี้ ท้าวเพชร ได้นำเงินนั้นมา หนองออนนั้นเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยออน ซึ่งปัจจุบัน  ได้เพี้ยนมาเป็นลำห้วยปอน ซึ่งไหลผ่านหมู่บ้านปอนปัจจุบันคำว่าปอนก็มาจากคำว่าออน ประกอบกับได้แท่งเงินสีขาวปอน ซึ่งแปลว่าขาว จึงเรียกหนองน้ำและลำห้วยเสียใหม่ว่าน้ำปอนจน ถึงปัจจุบันนี้ ตำบลปอนก็ตั้งชื่อตามลำน้ำปอน เมื่อได้ตั้งหมู่บ้านปอนนั้น ท้าวเพชรก็ได้สถาปนาตนขึ้นเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนแรก (พ.ศ. ๒๓๗๐ ๒๓๗๙) ต่อมาเมื่อท้าวเพชรถึงแก่กรรมแสนหลวงก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนต่อมา (พ.ศ.๒๓๘๐ ๒๓๙๗) ถึงจากแสนหลวงก็เป็นสมัยของแสนหลวง  ไชยวุฒ ซึ่งในขณะนั้น ตำบลปอน (บ้านปอนในขณะนั้น) ขึ้นรวมกับตำบลงอบพอหมดสมัยของแสนหลวง  ไชยวุฒ พญาปัญญาอนุรักษ์เป็นผู้ใหญ่บ้านปอน และเป็นกำนันตำบลปอนอีกตำแหน่ง เนื่องจากตำบลปอนได้แยกออกจากตำบลงอบ (พ.ศ.๒๔๐๘ ๒๔๑๔)มาจัดตั้งเป็นตำบลปอน เพราะมีประชากรเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งหมู่บ้านขึ้นใหม่หลายหมู่บ้าน เมื่อสิ้นสมัยของพญาปัญญาอนุรักษ์ก็เปลี่ยนมาเป็น แสนอักขรนุรักษ์ (แสนอักขระ) เป็นผู้นำตำบลปอน (พ.ศ.๒๔๑๕- ๒๔๒๔) ต่อมานั้นก็มีนายกาละวงค์  สิทธิยศ  เป็นผู้ใหญ่บ้าน และดำรงตำแหน่งกำนันในเวลาต่อมาและได้รับพระราชทานนามว่า ขุนปอน  ปราโมช  ในราวปี  พ.ศ. ๒๔๒๕ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และบ้านปอนอีกครั้ง และตำบลปอนก็ได้ถือกำเนิดมาจากบ้านปอน มาจนถึงปัจจุบัน
         
เนื้อที่และอาณาเขต
          ตำบลปอน มีพื้นที่ทั้งหมด ๖๔,๗๙๘ ไร่
          ลักษณะภูมิประเทศ
          ลักษณะภูมิประเทศตำบลปอนส่วนใหญ่เป็นเนินเขาขนาดเล็กสลับที่ราบเนินสูงและมี ลำน้ำน่านตัดผ่านในพื้นที่ตำบลปอน พื้นที่ราบส่วนใหญ่อยู่ทางทิศใต้ได้แก่ หมู่ที่ ๓,๔,๕,๖,๗ และเป็นเนินสูงเป็นเขาได้แก่หมู่ที่ ๑,๒,๘
          เขตการปกครอง
                   อาณาเขตทางทิศเหนือ          ติดต่อกับ   สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
                   อาณาเขตทางทิศใต้              ติดต่อกับ   ตำบลงอบ
                   อาณาเขตทางทิศตะวันออก    ติดต่อกับ   ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
                   อาณาเขตทางทิศตะวันตก       ติดต่อกับ   ตำบลงอบ
          ภูมิอากาศ
          ลักษณะทางภูมิอากาศเป็นแบบมรสุม มี ๓ ฤดู
                   ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม ถึง เดือน พฤษภาคม อากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง ราษฎรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร
                   ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือนกันยายน ปกติฝนตกชุกตลอดฤดูกาล แต่บางปีมีฝนตกขาดช่วงเป็นเวลานาน
                   ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือน ตุลาคม ถึง เดือนมกราคม ช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม มักมีอากาศหนาวจัดและมีหมอกปกคลุมโดยทั่วไป

. สภาพทางสังคม – ประชากร
จำนวนหลังคาเรือนทั้งหมด ๙๙๑ หลังคาเรือน ๘ หมู่บ้าน

หมู่ที่
หมู่บ้าน
ประชากร
ครัวเรือน
ชาย (คน)
หญิง (คน)
รวม (คน)
น้ำเลียง
๓๒๐
๒๙๓
๖๑๖
๑๘๐
ไร่ไทรงาม
๑๔๕
๑๒๕
๒๗๑
๗๑
หล่ายทุ่ง
๙๕
๑๑๗
๒๑๒
๖๔
หนองคำ
๑๑๙
๙๗
๒๑๖
๘๗
ใหม่
๑๕๖
๑๖๒
๓๑๘
๑๑๕
ปอน
๘๕
๑๐๖
๑๙๑
๑๖๒
ป่าเปือย
๑๗๕
๑๕๔
๓๒๙
๑๒๓
เฉลิมราช
๓๐๖
๓๐๔
๖๑๐
๑๘๙
รวม
,๔๐๕
,๓๕๘
,๗๖๓
๙๙๑


๓.สภาพทางเศรษฐกิจ

          -  รายได้ของประชากร   รายได้เฉลี่ยประชากร  ๓๒,๕๐๐  บาท / คน / ปี
          -  ทรัพยากรธรรมชาติที่มีมากที่สุดในตำบล ได้แก่  ๑.ดอกตองกง  ๒.ไม้สัก
          -  ผลผลิตทางการเกษตรที่มีมากที่สุดในตำบลได้แก่  ๑.ข้าวโพด  ๒.เงาะ

  รายชื่อกำนันผู้ใหญ่บ้าน
                   ๑. นายทนงค์  สะท้าน               กำนันตำบลปอน
                   ๒. นายบาน  หอมดอกพลอย       ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑ บ้านน้ำเลียง
                   ๓. นายเลิศ  ฮังคำ                    ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๒ บ้านไร่ไทรงาม
                   ๔. นายพูนทรัพย์พสิทธิ์  ภิวงค์      ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๓ บ้านหล่ายทุ่ง
                   ๕. นายสม  หอมดอก                ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๔ บ้านหนองคำ
                   ๖. นางพิณทอง   กรุณาดวงจิต     ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๕ บ้านใหม่
                   ๗. นายถนัด  บานเย็น               ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๗ บ้านป่าเปือย
                   ๘. นายแสวง  ท้าวคาม              ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๘ บ้านเฉลิมราช


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น